Select Page

นักลงทุนสัมพันธ์

สารจากประธานกรรมการ

ในปี 2565 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การบริโภคและการลงทุนในภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้นจากการคลี่คลายความรุนแรงลงของสถานการณ์โควิท-19 ในขณะเดียวกันความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนได้ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งส่งผลต่อความผันผวนของราคาถ่านหินโลก โดย AGE สามาถดำเนินธุรกิจอย่างแข็งแกร่งจากการขยายธุรกิจด้านโลจิสติกส์อย่างครบวงจร และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ความผันผวนของราคาถ่านหินในขณะนั้นได้เป็นอย่างดี ซึ่งสามารถสร้างผลการดำเนินงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์

โดยในปี 2565 AGE มีผลการดำเนินงานสูงที่สุด ด้วยยอดขายถ่านหิน 4.1 ล้านตัน รายได้รวมจากการขายและบริการ 18,815.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 46 โดยเป็นรายได้จากการขายถ่านหินทั้งในและต่างประเทศ 18,203.2 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ 2,074 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการให้บริการกับกลุ่มบริษัทในเครือ AGE จำนวน 1,462 ล้านบาท และรายได้จากให้บริการกับกลุ่มลูกค้าภายนอกซึ่งรวมรายได้จากการขายน้ำมันและสินค้าเกษตร อยู่ที่ 612 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,248 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 95.6 จากปีก่อน ซึ่งนับเป็นผลการดำเนินการที่สูงที่สุด และมีการจ่ายปันผลระหว่างการ ทำให้ปี 2565 มีการจ่ายปันผลจากผลการดำเนินงานรวม 2 ครั้ง

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นองค์กรที่พร้อมรับมือกับความผันผวนของสถานการณ์ทางธุรกิจ ซึ่งดำเนินการควบคู่ไปกับการคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อทั้งบริษัท พนักงาน และชุมชนโดยรอบ ตระหนักในความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจด้วย โดยในปี 2565 บริษัทฯ ได้รับการจัดให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนติดต่อกันเป็นปีที่ 5 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งมอบให้แก่บริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการบริหารภายใต้หลักบรรษัทภิบาล ถือเป็นการตอกย้ำถึงการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังขยายการลงทุนเชิงรุกในธุรกิจโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจให้มีความครบวงจรและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และขยายการให้บริการในกลุ่มธุรกิจลิสซิ่ง เพื่อปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุก ให้กับพนักงานขับรถที่มีผลงานดีของบริษัทและพันธมิตร และยังมีแผนที่จะขยายตลาดในธุรกิจเทรดดิ้งสินค้าเกษตรด้วย

ในนามของประธานกรรมการบริษัท ผมขอขอบคุณสำหรับความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากผู้ถือหุ้น นักลงทุน สถาบันการเงิน พันธมิตรทางธุรกิจ ลูกค้า ตลอดจนผู้บริหาร และพนักงานทุกท่านที่ได้ร่วมแรงร่วมใจช่วยดำเนินธุรกิจด้วยความเสียสละ ทุ่มเท อดทนและซื่อสัตย์ ส่งผลให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ บริษัทฯ ขอยืนยันว่าจะดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ตระหนักถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย รวมถึง มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม เพื่อให้บริษัทฯ เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

นายอภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร

ประธานกรรมการบริษัท